26/10/52

Hokkaido Trip

On 10 Aug 2008, I went to Hokkaido by shinkansen and went back to Tokyo by seishun 18 kippu. This trip was very nice and fun but also mixed with the wired combination of sadness because after this trip I could say that Ysep is ended and I have to go back to my home country. I don't like saying goodbye, I really don't want to, but nothing last forever, so we just have to keep it as a memory that when we look back, it will always bring us a big smile. I could say that ysep2007 was the best year of my life this far, the program name is young scientist exchange program, but the things that I got was much more than that being the scientist. I learned a lot from ysep friends who came from different country all around the world. It was great hanging around and talking with them. This trip was totally around 10 days in Northern part of Japan. I went there in Summer so the weather was not so cold and not so hot. I went climbing daisetsusan, and went to many places all the way down to Tokyo. The place that I like most in this trip was Tomita farm, the flower farm, main flower here is lavender. Here is some pictures from the trip. (^_^)

















3/8/51

Boat trip, Yukata



Boat trip ณ Tokyo bay..
............ทริปนี้ก้อสนุกมากเลยล่ะ มีเพื่อน ๆ ที่รู้จักไปเยอะเลย.........
หลาย ๆคนใส่ยูคาตะไปรวมทั้งเราด้วยเพราะว่าจะได้ลดราคา ตั้งพันเยนแน่ะ
ก็ในเรือเป็นแบบว่ามองออกไปสวยมากอ่ะ เห็นวิวท้องทะเลกับเมืองโตเกียวยามค่ำคืน
เสียดายที่เวลาบนเรือไม่นานเท่าไหร่ ใช่ๆ บนเรือมีคอนเสิร์ตด้วยล่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปฟังกะเค้าหรอก
เห็นแค่คนเต้นกันเยอะ ๆ ก้อสนุกแล้ว เอาเป็นว่าดีใจที่ได้ไปละกานน
ไม่ได้เขียนตั้งนานยังจะขี้เกียจอีก อิ อิ แต่นะพูดไปก็ใจหาย จะปีแล้วสินะที่อยู่ญี่ปุ่น
แล้วก็จะจบแล้วสินะ วายเสป..ไม่อยากจะเชื่อ..เวลามันติดปีกจิง ๆ (ToT)

Asahi, Last factory study tour


ก้อมาถึงการเที่ยวชมโรงงานครั้งสุดท้ายของวายเสปกันจนได้ อย่างที่บอกเวลาไวเหลือเกิน
ก็กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราได้ไปกันที่ โรงงานเบียร์ Asahi ก็เดินทัวร์โรงงานถ่ายรูปกันสนุกเลย
ก่อนกลับก็ได้ของฝากติดตัวไปคนละกระป๋อง อะไรนะเหรอ ก้อเบียร์นะซี่ ๆๆ อิอิอิ ดีใจกันถ้วนหน้า
เบรดหนึ่งในชาววายเสปของเราไม่รู้ว่าเมาจิงป่าว แต่ว่านะ...อืม คิดว่าเมาอ่ะแหล่ะ
แล้วก็ก่อนกลับจิง ๆ พวกเราก็ไปเดินซื้อของที่ร้านขายของที่ระลึกกัน เราก็ได้เสื้อมาตัวนึงล่ะ..สวยดี สีขาว ชมพู YOU AND YOUR BEER \(^_^)/

2/6/51

Enoshima





Enoshima เป็นเกาะขนาดเล็กมากๆ โดยรอบ ๆ เกาะนั้นเป็นชายหาดของที่อยู่ทางทิศตะวันตกของคามากุระ หาดเป็นหาดทรายฝั่งหนึ่ง แต่อีกฝั่งหนึ่งเป็นเหมือนหาดหิน ถ้าอากาศดีเราสามารถจะมองเห็นภูเขาฟูจิได้อีกด้วย
แต่วันที่ไปอากาศก้อค่อนข้างดีนะ แต่ว่ามองไม่เห็นอ่าา.. ก็เริ่มจากตอนไปถึงเราก็นั่งกินข้าวกล่องกันก่อน ไปด้วยกันสามคนมีเรา วิกเตอร์และก็อาร์กุสล่ะ พอเติมพลังข้าวกล่องเสดก้อกินไอติมกันสักหน่อย อากาศมันร้อน ๆ อ่ะนะ กินเสดก็เดินชมเกาะกัน เกาะนี้มีตำนานเทพเจ้ามังกรที่คอยรักษาเกาะ แล้วก็มีตำนานความรักของมังกรด้วยล่ะ แต่เราก็ไม่ค่อยเข้าใจในรายละเอียด เหอ ๆ เอาเป็นว่าบนเกาะก็น่าสนใจน่าดู มีร้านขายของที่ระลึก มีจุดชมวิวทะเล แล้วก้อมี ถ้าให้เข้าชมด้วย สรุปว่าก็เพลิดเพลินดี กับการไปเที่ยวครั้งนี้ แต่ก่อนจากลับเนี่ยดิ อยู่ดี ๆ อากาดก็หนาวขึ้นมา งานนี้เลยต้องรีบกลับบ้านเลยค่าา

Tsukiji Fish market, Asakusa

ก้อไปเที่ยวทสึคิจิมา เป็นตลาดปลาที่ใหญ่มาก ๆ เราก็ไปถึงตอนประมาณหกโมงเช้า เลยทันดูการประมูลปลาทูน่า ทูน่าที่นี่ตัวใหญ่กว่าที่เห็นที่บ้านเราเยอะเลย เห็นแล้วคิดว่าฉลาม ฮ่ะ ๆ
ในตลาดก็มีการขายพวกกุ้ง หมึก หอย และของทะเลต่างๆ ดูแล้วก้อน่ากินทั้งนั้น ราคาก็ไม่แพงมากถ้าเทียบกันกับราคาในห้าง แต่ก้อไม่ได้ซื้ออ่ะนะ เดินออกมาจากตลาดก้อมีความคิดขึ้นมาว่า เอาวะ ไหน ๆ ก็มาตลาดปลา ไม่กินซูชิแล้วจะกินอารายจิงมะ ก็เลยเข้าไปกินซูชิเป็นอาหารเช้า ปลาดิบงี้สดสุด ๆ
แบบว่าอร่อยมากเลย แต่ราคาก็ใช่ย่อย ปาเข้าไป 2000yen แน่ะ เป็นอาหารเช้าที่แพงที่สุดในชีวิตเลย

หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปที่อะซากุสะ เป็นย่านที่มีวัดชื่อดังนั่นก็คือ เซนโซจิ ไปเป็นครั้งที่สองเพื่อไปขอพร เพราะว่ากำลังจะกลับไปขอทุนเรียนต่อโทที่ญี่ปุ่นต่อ จากนั้นเราก็เดินเที่ยวชมร้านค้าต่าง ๆ นะ ซื้อของที่ระลึกกลับบ้านมากมายเลยล่ะ แล้วก้อซื้อยูคาตะมาหนึ่งชุดล่ะ กะว่าเอาไว้ใส่ตอนงานดอกไม้ไฟ
เสร็จเรียบร้อยก็ไปนั่งเรือเล่นไปเรื่อย ๆ สวยดี ไปจนเลยโไดบะโน่นแน่ วันนี้เป็นวันที่ยาวนานมากก็ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งอ่ะนะ เที่ยวเสดยังไม่บ่ายสามเลย ฮ่ะ ๆ แต่ก็สนุกมากเลยล่ะ

8/5/51

Hakone ( Yunessan )


.ผู้ร่วมเดินทาง ที่จริงมีเอมเรอีกคน.

Hakone เป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวนัก เราเลยถือโอกาสขอไปเยือนสักครั้งนึงใน Golden week นี้ ซึ่งเป็นวันหยุดของญี่ปุ่นติดต่อกันนาน
เราซี้อทัวร์ราคา 5500yen เท่านั้นรวมค่า รถบัส ไปกลับ ค่าอาหารบุฟเฟต์ ค่าเข้าสวนน้ำซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำและ ออนเซน หรือ Hotspring นั่นเอง
พวกเราไปกันทั้งหมด เจ็ดคน ได้แก่ เรา, วิกเตอร์, เรซา, ไซโค, เอมเร, ฮัน, ฮิลดา ออกเดินทางกันวันที่ 7 May 08 นั่งรถบัสประมาณชั่วโมงครึ่งก็มาถึง เราเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเล่นน้ำ ไปกินอาหาร และลงเล่น
ออนเซนที่นี่ สนุกมากเพราะไม่ใช่แค่น้ำร้อน ๆ แต่มีเป็นไวน์ เป็นสาเก เป็นชาเขียว ทะเลเดดซี ราเมน , พวกเราเลยเล่นกันสนุกไปเลย พอเล่นน้ำจนหนำใจแล้วเราก็ไปเข้า ออนเซนของจริง เพื่ออาบน้ำ เปลี่ยนเสือ้ผ้า และออกไปเที่ยวต่อ ที่ ๆ เราไปก็เป็นสถานที่ ๆ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ สวยมากๆๆเลยล่ะ
สรุปวันนี้พวกเราเที่ยวกันนานไปหน่อย เลยตกรถบัส สุดท้ยเลยนั่งรถไฟกลับเอง แป่วววว....

Disneyland , Fujikyu(2)

27 Apr 08 ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ กับฟูจิคิวมาล่ะ ก็ไปวันติด ๆ กันเลย เหนื่อยชะมัด แต่ก็สนุกอ่ะนะเลยไป
ดิสนีย์แลนด์สนุกอ่ะ บรรยากาศโรแมนติกมากเหมือนอยู่ในเทพนิยาย หุหุ เว่อไปและ เราไปตอนครบรอบ 25 ปีเลยโชคดี เพราะว่าเค้าจุดดอกไม้ไฟเยอะเปนพิเศษ ที่ชอบมากที่สุดเลยนะก็คือวิวของปราสาทซินเดอเรลลาล่ะ
สวยมากๆๆ เลย เครื่องเล่นต่างๆ ก็ทำดี ชอบหมีพูห์ กับ Haunted Mansion สุดเลย สนุก

29 Apr 08ไปเที่ยวฟูจิคิว ครั้งนี้เปนครั้งที่สอง อิอิ ไม่เข็ดครับ งานนี้ไปก็เล่นโรลเลอโคสเตอร์ สนุกเช่นเคย แต่ที่เด็ดสุด คงจะเป็น โรงพยาบาลผีสิงอ่ะ อันนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 500 yen ถึงได้เข้า , ไอเรานะแค่เห็นก็ปอดแล้ว แบบว่าไม่เอาอ่ะ ไม่กล้าเข้า คือเป็นบ้านผีสิงแบบที่ว่าเราต้องเข้าไปเดินในโรงพยาบาลร้าง ซึ่งเป็นตึกประมาณ สามชั้นได้ เข้าไปได้ครั้งละสองคนนะ แต่ให้ไฟฉายไปอันเดียว บรรยากาศข้างในนะก็มืดมากอ่ะ แล้วก็มีเสียงกรีดร้องมากมาย ผีก้อจะโผล่มาเป็นช่วง ๆ คือเราต้องเดินขึ้น ลง บันได ผ่านห้องต่างๆ ไงมันเลยลุ้นมากว่าผีจะออกมาตอนไหน แล้วก้อนะ โรงบาล เตียงคนป่วย โหลดองเด็ก น่ากัวมากอ่ะ เดินไปเดินมารวม ๆ ก็ ยี่สิบนาทีได้อ่ะ สุด ๆ ไปเลย แถมผีนะ ยังวิ่งตามได้อีกอ่ะ ...ตอนออกมาได้นี่แบบว่าดีใจสุด ๆๆ

21/3/51

12 days in South Korea

พระราชวังเคียงบกกุง, เดินเล่น
ตลาดเมียงดง, หมู่บ้านนัมซาลฮันกก

วันที่ 9-21 March 08ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศที่ใฝ่ฝันมานานเสียที นั่นก็คือ เกาหลีใต้ ดินแดนแห่งดรามาซาบซึ้งกินใจ ในทริปนี้เริ่มต้นด้วยการเที่ยวในกรุงโซลก่อนเลยในโซลผู้คนมากมายพูดว่า
คล้ายคลึงกับโตเกียวในญี่ปุ่น แต่พอไปเห็นมาจริงๆ คิดว่าไม่คล้ายกันสักเท่าไหร่ ญี่ปุ่นสะอาดมาก และดูสงบปลอดภัย แต่เกาหลีจะว่าไปคล้ายบ้านเรามากกว่า ถนนหนทาง ขยะมากมาย เลนของถนนก็กว้างข้ามถนนก็ยาก แต่ที่ดีกว่าญี่ปุ่นอยู่อย่างคือ ผู้คนไม่สุภาพมากนัก ดูรีแลกส์และเป็นธรรมชาติดี วันแรกไปถึงโซล ณ สนามบินอินชอนก็ค่ำแล้ว เลยตรงดิ่งไปเกสต์เฮาส์ที่จองไว้ วันถัดมา ก็แพลนว่าวันนี้เป็นวันสบาย ๆ เที่ยวไม่เครียด แต่จะเน้นไปที่พระราชวังก่อน ที่ไปมาคือเคียงบกกุง ใหญ่ดี แต่ทุกวังหน้าตาคล้ายกันหมดเลยเลยไม่ได้ไปมากนักก่อนกลับก็ไปเที่ยวถนนอินซาดง เพราะอยู่ไม่ไกล จากที่พัก
วันถัดมาเป็นการไปเที่ยวตลาด ช็อปปิ้งเพราะว่าเสื้อผ้าไม่แพงนักถ้าเทียบกับญี่ปุ่น ก็ไปมาสองแห่งคือดงแดมุน กับ เมียงดง ที่จริงวันนี้จะไปเที่ยวหอคอยโซลด้วย แต่ว่าแผนการต้องล้มเลิกไป เพราะว่าทรายแม่น้ำจากเมืองจืนพัดมาที่เกาหลีหนักเอาการที่โซลทำให้หลายวันนี้อากาศไม่แจ่มใสอย่างที่คิดไว้ ตอนกลางคืนก็ยังได้ไปเดินที่คลองชองเกชอน ซึ่งประดับไฟยามค่ำคืนสวยงาม ต่อมาก็เป็นวันที่เราไปเที่ยวแม่น้ำฮัน เป็นแม่น้าสายใหญ่ที่เกาหลี พอไปถึงก็เช่าจักรยานเที่ยวชมรอบแม่น้ำ อากาศวันนี้ดีไม่หนาว เลยขี่จักรายานสนุกไปเลย ต่อจากนั้นก็เดินไปที่ตึก KLI 63 เช่าจักรยานขี่เล่นริมแม่น้าฮัน

เป็นตึกสีทองอร่ามที่สูงที่สุดในเกาหลี อย่างว่าแหละ เพราะว่า yellow sand จากเมืองจีน ทำให้มองเห็นวิวได้ไม่ไกลอย่างที่ควรจะเป็น เซ็งนิดหน่อย แต่ก็รอจนค่ำ พอค่ำลงแสงไฟในกรุงโซลก็เปิดทั่วงานนี้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยเพราะอย่างน้อยวิวยามค่ำคืนก็สวยดี กลับจากวันนั้นก็ครบแล้วการเที่ยวในโซลวันรุ่งขึ้นเลยเดินทางออกนอกเมือง
เมืองถัดไปที่ไปเยือนคือ ชองอึบ เมืองนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ที่ไปเพราะว่าจะไปเยือน Namjangsan National park ซึ่งอยู่ใกล้กันกับเมืองนี้เราใช้เวลาในเมืองนี้เพียงหนึ่งคืนเท่านั้น และมุ่งหน้าต่อเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเกาหลี นั่นก็คือยองจุนที่เพิ่งกลับบ้านไป เมืองที่ยองจุนอยู่คือ กวางจู เราเที่ยวกับยองจุนอยู่สามวัน
ก็ได้พักที่บ้านของยองจุน ยายของยองจุนน่ารักมาก ใจดีมากเลยทำซุปสาหร่ายให้เรากินด้วยตามธรรมเนียมของเกาหลี เพราะว่าใกล้จะวันเกิดเรา พ่อและแม่ของยองจุนก็น่ารักมากดูแลและเทคแคร์เราเป็นอย่างดี ได้ไปกินชาเขียวที่ทำจากใบไผ่ ไปเที่ยวสวนไผ่ Damyang ซึ่งมีชื่อเสียงมาก นอกจากนั้นได้เข้าไปดูสวนที่เค้าเลี้ยงกวาง ตัวใหญ่มากๆ เลย วันสุดท้ายกับยองจุนเราไปที่ Boseong Tea Garden ล่ะ ถ้าใครได้ดู summer scent จะจำได้แน่ ๆ ฤดูที่ไปยังไม่เข้าหน้าร้อนเต็มที่เพราะเราไปปลายหน้าหนาวก็กลัวว่าใบชาจะไม่มีให้เห็น แต่พอไปก็ถือว่าโชคดีเพราะว่าก็สวยดี เขียวดี ถึงจะเป็นเขียวเข้มก็เถอะ 555 จบจากวันนี้ก็ร่ำลายองจุนเตรียมตัวไปจุดหมายสุดท้าย เจจูโด (นั่งรถบัสไปมกโพ เพื่อไปต่อเรือไปเจจู)

ฟังแล้วน่ากลัวดีเนอะ เข้าไปข้างในก็มืดๆ เย็นๆ น่ากลัวดี แต่ก็สวยดีนะ วันต่อมา 18 Mar 08 เย ๆ อายุ 22ปีแล้วสินะเรา เฮ้อ เวลาไวจัง วันนี้เราเดินทางไปยังเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับเจจูนั่นก็คือ Udo island ไปถึงก็เช่ารถมอเตอร์ไซค์ ขับเที่ยวรอบเกาะ ดอกไม้ประจำเจจูโด canola สีเหลืองอร่ามบานสะพรั่งสวยมาก เราไปถึงเกาะตอนเช้าเลยขี่รถรอบเกาะได้อย่างปลอดภัยดีเรามีเวลาเที่ยวในเจจูโดทั้งหมดสี่วันเต็ม ๆ วันแรกนั้นเราไปถึงเจจูประมาณบ่ายโมงครึ่ง นั่งแทกซี่ไปโรงแรมเก็บของเรียบร้อยก็ไปเยือน Manjanggul Cave ซึ่งเป็นถ้ำ Lava Tube ที่ยาวที่สุด มีตำนานกล่าวกันว่ามีงูยักษ์อาศัยอยู่ ทำให้สมัยก่อนชาวเจจูโด ต้องสังเวยสาวบริสุทธิ์ทุก ๆปี ขี่รถชมทะเล ลมทะเลโบกโบย แวะเที่ยวตามจุดสวยๆ บนเกาะ ที่เกาะมี Light house หรือประภาคาร museum อยู่ ที่เกาะนี้ถ้าใครได้ดูดรามาเกาหลีหรือหนังเกาหลีจะพอจำฉากสวยของประภาคารได้ได้แก่ อิลมาเร่ และ สปริงเดย์ สนุกที่สุดเลยวันนี้เป็นวันเกิดที่มีความสุขมากค่ะ ที่เกาะนี้ก็มีตำนานอีกครับ แต่ว่าเหมือนว่าจะใกล้เคียงความจริง ที่นี่มีตำนานนางเงือก ซึ่งก็ได้ไปพบมาตัวเป็นๆ ก็เป็นผู้หญิงบนเกาะนี้นี่แหละที่เก็บอาหารทะเลใต้ทะเลเป็นอาชีพโดยการดำน้ำลงไปลึกเกินกว่าสิบเมตร ไร้ถังออกซิเจน อยู่ได้สองถึงสามนาทีใต้น้ำ ฟังดูไม่น่าเชื่อแต่เป็นเรื่องจริง และทั้งหมดนั้นเป็นผู้หญิงด้วย จบจากวันนี้ก็ไปกินอาหารอร่อยตามเคยแต่พิเศษหน่อยเพราะเป็นวันเกิด อิอิ.. อีกวันก็เป็นวันของภูเขา เราก็เดินเขา ที่สูงที่สุกในเกาหลี Hallasan ซึ่งอยู่ใจกลางเกาะ เราไปถึงประมาณ 10am ไม่สามารถขึ้นไปถึงยอดได้ทันเพราะประตูบนนั้นปิด 12.30 เส้นทางที่เลือกคือทางที่ยาวสุดได้แก่ Sogpanak 9.7 km. แต่เนื่องจากเราไปยอดสุดไม่ได้เส้นทางที่เค้าอนุญาติให้ไปได้มากสุดก็คือ 7 km ตอนแรกก็สนุกดีเพราะไม่หนาว แต่พอเดินสูงขึ้นไปก็เจอกับหิมะ ที่ยังไม่ละลาย การเดินเลยลื่นและยากลำบากมาก แต่เราก็ไม่ย่อท้อทำจนสำเร็จได้ เกือบร้องไห้ตาย ฮ่า ๆ สรุปเดินทั้งหมดร่วม 14 km ขึ้นเนิน เจ็ด ลงเนิน เจ็ด สุด ๆอ่ะ เหนื่อยยยย....TOT
ส่วนชองบังวิวสวยเพราะเป็นน้ำตกติดทะเลวันสุดท้ายแล้ว วันนี้จัดให้เป็นวันของน้ำตกละกัน วันนี้เลยไปเยือนสองน้าตกที่ขึ้นชือ่ว่าสวยของเจจู แต่อันนี้จะว่าไปเอราวันบ้านเราสวยกว่า อิอิ ก็ได้แก่ Cheonjeyon waterfall , Chongban waterfall แต่อย่างไรก็ตามก็สวยได้อยู่ สวยทีเดียวแหละ ชอนเจยอน กว้างดีมีสามน้าตกเชื่อมกัน วันนี้ออกเที่ยวแต่เช้าเวลาเลยเหลือเยอะเลยได้ไปเยือน Seoungup Folk village เป็นหมู่บ้านแบบสมัยก่อนของชาวบนเกาะ ก่อกำแพงด้วยหิน หลังคาเป็นฟางก็ดูน่ารัก สนุก ๆๆ จิง ๆที่เจจู จบแล้วสินะการเดินทางที่เกาหลี ไว้จะมาเยือนใหม่น้าา...บายๆ (นั่งเครื่องบินจากเจจูกลับโซล และต่อมาโตเกียว)

Udo island

29/2/51

Farewell Party

เป็นงานเลี้ยงอำลาเพื่อน ๆ ในวายเสปที่จะกลับบ้านก่อน เสียดายงานนี้ยองจุนไม่ยอมมาเข้าร่วมด้วยเลยเหมือนเป็นงานเลี้ยงอำลาของอีวา และ ริคาร์ดเท่านั้น ในงานนี้พวกเราก็ไปที่อิซาคายา อาโอบาไดกัน ก็ได้รับความสนุกสนานดี กิน ดื่ม และคุยกันกับเพื่อน ๆ ในวายเสป งานนี้คนมาร่วมเยอะประมาณเกือบ 20 คนได้เรานั่งข้าง ๆ Tan min rui, และ Hilda สนุกดี ริคาร์ด กับ อีวาก็ได้พูดอะไรทิ้งไว้ให้เพื่อนๆ ด้วย งานนนี้ถึงจะสนุก แต่ก้อใจหายนะ เวลามันไวมากเลย ยังจำวันแรกที่เราเข้ามาที่หอครั้งแรก แนะนำตัวรู้จักกันเป็นครั้งแรก พอเริ่มสนิทกันมากขึ้นมารู้ตัวอีกทีเพื่อนก็กลับบ้านแล้ว ตอนนี้ก็มาได้ครึ่งทางเต็ม ๆ แล้วสินะ เหลืออีกครึ่งทางเท่านั้นในดินแดนสายซากุระนี้ เอาวะ อีก 6 เดือนจะต้องทำให้ดีที่สุด และอีกอย่างเราเชื่อว่าพวกเราจะต้องได้เจอกันอีกอย่างแน่นอน บาย ๆ นะ ริคาร์ด , อีวา และ ยองจุน .......

27/2/51

Primary school visiting with Yoshirin (hilda,young jun,chris)

Hilda & I & youngjun with kodomo

Keitokun & Kanang


26 Feb 08 นั้นได้ไปเป็นอาสาสมัครที่โรงเรียนประถมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าใดนัก สถานีที่ไปได้แก่ Kitasenzoku จากนั้นเราก็ได้เข้าไปพูดคุยกับเด็ก ๆ เล่นเกมอุลตราแมนกัน เล่นเกมนับเลข 1-7 สนุกดี มีเด็กคนนึงน่ารักมากเลยรู้สึกว่าจะถูกชะตาเป็นพิเศษ เด็กอะไรก็ไม่รุ้หล่อดี อิอิ...ก็มีการแบ่งกลุ่มกันและก็เราก็เล่าเรื่องราวของประเทศเราให้เด็ก ๆ ได้ฟังกัน โชว์ รูปภาพมากมายให้เด็ก ๆได้ดูกันอย่างสนุกสนาน^0^

25/2/51

Sendai , Yamagata 19-24 Feb 08

Yamadera


Matsushima


ในวันที่ดังกล่าวได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองเซนได (仙台)นับว่าเป็นเมืองใหญ่เอาการ และก็มีความเจริญอยู่มาก ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ไม่ต่างอะไรนักกับโตเกียวแต่ว่าจะมีขนาดพื้นที่กว้างกว่า ดูแล้วไม่อึดอัดดี วันแรกนั้นเราประเดิมเลยด้วยการไปเที่ยวที่ Sendai Daikannon, Dai=Big, Kannon=Kuanim สรุปแล้วก็คือเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่นั่นเอง ใหญ่แค่ไหนก็ลองคิดดูว่าสูงร้อยเมตร และทั้งองค์เป็นสีขาวหมดเลย ดูตระหง่านและสวยงาม เราสามารถเข้าไปข้างในกวนอิมได้ด้วย ค่าเข้าราคา 500 เยน ก็มีทั้งหมด 12ชั้นด้วยกัน ข้างในนั้นสามารถที่จะมองเห็นวิวเมืองเซนไดสวยงาม และข้างในประกอบด้วยเจ้าแม่กวนอิมปางต่างๆ รวมทั้งเทพเจ้าอื่น ๆ ด้วย ... วันต่อมาแพลนว่าจะไปเที่ยวสถานที่ที่สวยงามติดอันดับหนึ่งในสามสถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นั่นก็คือ Matsushima (松島)ไปแล้วก็ถึงกับอึ้งเพราะว่าสวยงามสมคำล่ำลือจริง ๆ เป็นเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลแปซิฟิค กระจายไปทั่ว มีสะพานสีแดงยาวตระหง่าน เชื่อมไปสู่เกาะอีกเกาะหนึ่ง สนุกและดีใจที่ได้มา ไม่กี่วันก่อนที่นี่คงจะมีหิมะตกเพราะยังคงเห็นหิมะบางส่วนที่ไม่ละลาย ทำให้ดูสมเป็นฤดูหนาว แต่พอมองออกไปยังทะเลด้วยแสงอาทิตย์ที่สาดส่องทำให้รู้สึกถึงฤดูร้อนได้เหมือนกันแฮะ พอตกกลางคืนเราก็อยากไปออนเซน(温泉) หรือว่า Hotspring ที่ที่ค่อนข้างโด่งดังก็คือ Akiuonsen (秋保温泉)แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะว่ากว่าที่จะไปถึงต้องสับสนกับรถบัสมากมายด้วยความที่ถามแต่ป้ายรถแต่ขึ้นแบบไม่ยอมอ่านป้ายสถานีปลายทาง นั่งตั้งนานแต่ว่าไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้ ขำดี พอไปถึงแห้วกินครับเพราะว่าออนเซนปิดหมดแล้ว ทางโรงแรมที่เราไปถามจึงแนะนำให้เราไปโอฟุโระที่ยังไม่ปิด お風呂หรือว่าอ่างอาบน้ำนั่นล่ะ ก็เอาวะขำๆ อ่างก็ไม่ใหญ่มาก ตลกดีคิดซะว่าเป็นออนเซนขนาดย่อมละกัน สรุปวันนี้ทั้งงงและสนุกและผ่านไปได้ด้วยดี ....วันถัดมาอีกวัน วางแผนว่าเชคเอาท์จากโรงแรม นั่ง Loople bus ของเมืองชมรอบเมือง และออกเดินทางสู่ Yamadera (山寺)ก็เป็นเมืองหรือว่าหมู่บ้านขนาดกลางกลางหุบเขา เราเดินทางด้วยรถไฟ จากเซนไดใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางก็เพลิดเพลินกับการชมหิมะขาวโพลน นั่งรถไฟกลางหุบเขามองไปมีแต่ธรรมชาติ สวยงามและประทับใจมาก เมื่อไปถึงก็เดินไปยังวัดที่มีชื่อเสียงในยามาเดระ เป็นวัดที่อยู่บนหุบเขามีศาลาตรงปลายผามองเห็นวิวลงมาจากที่สูงชัน หิมะก็ตก และหนามาก แต่เราก็ไม่ย่อท้อ และในที่สุดเราก็เดิทางขึ้นไปสำเร็จ เป็นวันที่ดีและประทับใจมาก เสร็จจากที่นั่นเราก็เดินทางมุ่งสู่ Yamagata (山形)ใช้เวลาประมาณสิบกว่านาทีเท่านั้น และก็เช็คอินที่ Toyoko Inn เป็นโรงแรมเดียวกับที่เซนไดที่ได้พักมา พักล่ะครับวันนี้ ....อีกวันถัดมาวันนี้ก็ต้องขอพักซักหน่อยเลยไม่ได้ทำไรมาก เดินชมเมืองพักผ่อน เพราะเราเหนือ่ยจากการขึ้นเขาและเดินทาง อีกอย่างพุ่งนี้จะไปสกีจ้า ...... วันนี้เป็นวันสุดท้าย คืนนี้จะต้องกลับสู่โตเกียวแล้ว เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและมุ่งหน้าสู่ Mt.Zao(蔵王)เพื่อจะไปเล่นสกีกัน ค่าเช่าสกีแพงอ่ะ แล้วสกีก็เล่นยากอยู่ แต่สนุกดี พอเย็นหน่อยหนาวปางตาย ทั้งลมทั้งหิมะ แต่ก่อนออกจาก Mt.Zao เราก็ได้เข้าออนเซนจริง ๆ เสียที ราคาก็ไม่แพงด้วยเพียงหกร้อยเยนเท่านั้น บ่อน้ำร้อนที่นี่มีสามบ่อ ในอาคารหนึ่ง และนอกอาคารสองบ่อ ข้างนอกอาคารร้อนจัดดี ใบหน้าสัมผัสหิมะที่หนาวเย็นแต่ร่างกายร้อน สบายมากเลย อาบเสร็จเรียบร้อยรู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก เสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับยามากะตะ นั่งกินข้าวรอรถไฟเที่ยวสุดท้ายเพราะบัสกลับโตเกียวจอดที่เซนไดห้าทุ่มครึ่งก็กินข้าวไปคุยกันไปสนุกมากเลยทริปนี้ ...มีความสุขค่ะ ^0^

19/2/51

Beluga's observation at Nagoya Port Aquarium

วันที่12-15 Feb ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำโปรเจคที่นาโงย่าโค อควอเรียม งานนี้เป็นการทำ Intensive obervation 48 hrs non-stop คือบันทึกข้อมูลทุก ๆ หนึ่งนาทีในสี่สิบแปดชั่วโมง งานนี้มีคนไปช่วยทำด้วยคือ ชัจจิ และยาโย แต่ก็ยังเหนื่อย อยู่ดี ... แต่จะเหนื่อยแค่ไหนก็ดีใจเพราะว่าเจ้าเบลูกาเนี่ยน่ารักมาก สตาฟที่นี่ก็อนุญาติให้เราเข้าไปตอนเทรนนิง ให้เราจับมันได้ด้วย และก็เลยได้เรียนรู้ภาษาโลมาว่าทำอย่างไร , เบลูกาน่ารักมาก เป็นสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ที่เราว่าน่ารักที่สุดเลยก็ว่าได้ ชอบๆๆๆ...ก็เลยมีความสุขมากเลยการออกฟิลด์ครั้งนี้ และข้อมูลที่จะทำโปรเจคก็ได้มาเรียบร้อย เหลือวิเคราะห์เท่านั้น แต่ก็คิดว่ายังต้องเหนือ่ยอีกมากเพราะอาจารย์จะเพิ่มโลมาให้อีกหนึ่งตัว จากที่ให้มาทำสี่ตัวแล้ว เฮ้ออ สู้ ๆสู้ตายจ้า

Party at Satosensei's house

Play Guitar& sing Thai song with Chin

Ysep farewell cake for Eva,young jun,Angle

Bye Bye Uri Young jun ToT

วันที่ 16 Feb ที่ผ่านไป มีการจัดงานปาร์ตี้ขึ้นที่บ้านของอาจารย์ซาโต้ เป็นปาร์ตี้เลี้ยงอำลาของแองเจิ้ลซัง และเพื่อน ๆ ชาววายเสปที่จะกลับบ้านก่อน คนที่จะกลับก่อนคือเข้าร่วมโปรแกรมเพียง หกเดือนได้แก่ อีวา ยองจุน และ ริคาร์ด , ภายในปาร์ตี้นั้นอาจารย์ซาโต้ก็ทำอาหารมากมายให้พวกเราได้กิน จัดเตรียมเครื่องซูชิให้พวกเราได้ทำกินกันด้วย งานนี้เพื่อนชาววายเสปก็มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาขาดไปแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ในงานพวกเราก็ได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขมาก เจฟเล่นเปียโน เล่นมายากลไพ่ เดนตอนกับคริสต์ทำเค๊กวายเสป เรากับชินเล่นกีตาร์ร้องเพลงกัน พอตอนกลับเราทั้งหมดก็เลยตัดสินใจไปคาราโอเกะกันต่อเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสัอนดีที่พวกเราได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ไปคาราโอเกะกันที่อาโอบาได สถานีใกล้หอพักที่สุด ก็ร้องเพลงกัน เต้นกันสนุก ที่คาราโอเกะที่นี่เรากินไอติม ดื่มน้ำได้ไม่อั้นงานนี้ก็กินติมกันอิ่มเลย ^0^วันนี้เรากับนีลยังคุยกันเลยว่า อิจิบัง ทาโนชี่ สนุกสุด ๆ แล้วคราวนี้ ก็อยู่กันในคาราโอเกะยันเช้าเลย และจากนั้นก็เดินกลับหอกันท่ามกลางอากาศหนาวเย็น สงสัยนอนตื่นบ่ายสามบ่ายสี่แน่เลยเรา......

29/1/51

Sumo

วันที่ 20 ม.ค. ก้อได้มีโอกาสไปดูซูโมมาไปกันทั้งหมดแปดคนมีเรา วิกเตอร์ โอเวน โซบี ฮิลดา อีวา เรซา อาร์กุส ก้อได้รับความสนุกสนานเป็นอย่างมาก ซูโมน่ารักมากเลยอ่ะ ตัวกลม ๆ ขาว ๆ เหมือนโมจิที่เพิ่งไปทำมาเลย แต่เห็นตัวกลม ๆ น่ารัก หน้าตาใจดีอย่างงั้น แรงเยอะมากมายเลย คนโปรดของเรานะเห็นจะเป็น ฮาคูโฮ จาก มองโกเลีย และโคโตชู จาก บัลแกเรีย คนนี้หล่ออ่ะ ฮ๋ะๆๆ แต่แชมป์เก่านี่ก้อเก่งมากเลยมีนามว่า อะสะโชริว สุดๆ อ่ะ เก่งมากเลย ถ้า แชมป์แพ้เนี่ยนะคนดูก็จะโยนหมอนขึ้นไปบนเวทีล่ะ ตอนเชียร์นะหนุกมากอ่ะ แบบว่า ฮะคุโฮ Kampatte!!! ตะโกนกันมันไปเลย

นอกจากนี้เราก้อได้เข้าพิพิธพันธุ์เอโดะโตเกียวด้วยล่ะ ก้อสนุกครับงานนี้เรากับอาร์กุส จะถ่ายรูปทุกที่เลย เรซาก้อไปด้วยกัน

14/1/51

O-mochi

ฮ่ะๆๆๆ

.. หวาดเสียว อย่าตีหนูน้าา..


Tan , I , Snakeking , Neil , Hilda , Lita

ก้อนั่งในที่ที่น่าจะเป็นเตาสมัยก่อนของชาวญี่ปุ่น


ในป่าต้นไผ่ มีไผ่อยู่มากมาย..ก้อเข้าไปกับวิกเตอร์ และไซโค

หนูน้อยนี่ลูกใครไม่รู้ แต่น่ารักมากเลย แก้มงี้ยุ้ยเชียว ขออุ้มหน่อยนะ

ภาพรวมสุดประทับใจ

ก้อวันนี้ไปทำโมจิกันกับสมาชิกในฮิปโปแฟมิลี่คลับ ก้อไปกันหลายคนมากทีเดียว ได้รับความสนุกสนาน และก้อได้รู้จักทักทาย พูดคุยกับคนญี่ปุ่นหลายครอบครัว การทำโมจิก้อไม่ง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกคิดว่าก็ตำ ๆ ข้าวไป แต่พอลองทำเข้าจิงๆ ถึงรู้ว่าไม้ที่ใช้ก็หนักไม่ใช่เล่นเลย แถมตอนที่ลองเป็นคนคอยพลิกโมจินะยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ข้าง ๆ สถานที่ที่ไปเป็นป่าต้นไผ่ล่ะ ก็สวยงามดี พอทำโมจิกันเสร็จก็ปั้น โมจิกันเป็นก้อนกลม ๆ แล้วก็ดิพ ด้วยหลาย ๆ หน้า มีมันฝรั่งทอดกรอบ โชยุสาหร่าย ไชเท้า นัตโตะ ถั่วแดง พีนัท และงาดำ ก้อลองจนครบหมดทุกอันเลย อร่อยค่ะ .. จากนั้นขากลับก้อมีร้องเพลง แนะนำตัว เราร้องเพลงช้าง ๆๆ น้องเคยเห็นช้างรึเปล่า ฮ่ะ ๆ ตลกดี แล้วพอตอนแยกย้ายกันกลับ เราก้อได้โมจิกลับกันคนละถุง ..รวม ๆ แล้ววันนี้หนุก แต่คงเบื่อโมจิไปอีกสักพักใหญ่ๆ อิอิ...